Cheongsamology

  • Home
  • Shop
  • Contact
  • Blog
  • No products in cart.
  • Home
  • Blog
  • Blog
  • คู่มือการตัดเย็บกี่เพ้าจีนโบราณฉบับสมบูรณ์

คู่มือการตัดเย็บกี่เพ้าจีนโบราณฉบับสมบูรณ์

by Cheongsamology / วันอาทิตย์, 03 สิงหาคม 2025 / Published in Blog

ชุดกี่เพ้าเป็นเครื่องแต่งกายจีนโบราณที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำมากที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามและความงามแบบฉบับตะวันออกเท่านั้น แต่ยังเป็นผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และงานฝีมืออันประณีต การสร้างชุดกี่เพ้าแบบดั้งเดิมสักชุดหนึ่งนั้นเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจในโครงสร้างของชุด ความแม่นยำในการวัด การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม และความอดทนในการเย็บรายละเอียดต่าง ๆ บทความนี้จะพาทุกท่านไปสำรวจขั้นตอนอันซับซ้อนและน่าหลงใหลของการรังสรรค์ชุดกี่เพ้าตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้เข้าใจถึงคุณค่าที่แท้จริงของเครื่องแต่งกายอมตะชิ้นนี้

1. การทำความเข้าใจกี่เพ้าและประวัติโดยย่อ

ชุดกี่เพ้า หรือที่รู้จักกันในภาษาจีนว่า "ฉีผาว" (Qipao) มีต้นกำเนิดมาจากเครื่องแต่งกายของสตรีชาวแมนจูในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งในระยะแรกมีลักษณะหลวม ไม่เน้นสรีระ และมักมีแขนเสื้อกว้างใหญ่ ต่อมาในช่วงทศวรรษ 1920-1930 ชุดกี่เพ้าได้วิวัฒนาการอย่างรวดเร็วในเซี่ยงไฮ้ โดยได้รับอิทธิพลจากแฟชั่นตะวันตก ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปทรงให้เข้ารูปมากขึ้น เน้นสรีระของผู้สวมใส่ มีการใช้ปกคอตั้งสูง ผ่าข้างกระโปรง และใช้ผ้าไหมที่มีลวดลายงดงาม กี่เพ้าจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัย ความมั่นใจ และความสง่างามของสตรีจีนในยุคนั้น แม้เวลาจะผ่านไป ชุดกี่เพ้ายังคงเป็นเครื่องแต่งกายที่คลาสสิกและเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะในโอกาสพิเศษ งานพิธีการ หรือแม้กระทั่งในชีวิตประจำวัน โดยมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์และวัสดุให้เข้ากับยุคสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้

2. การเลือกวัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็น

การเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างชุดกี่เพ้าที่มีคุณภาพและสวยงาม

  • ผ้าหลัก (Main Fabric): ผ้าที่นิยมใช้สำหรับชุดกี่เพ้าแบบดั้งเดิมคือ "ผ้าไหม" (Silk) ด้วยคุณสมบัติที่นุ่ม ลื่น มีน้ำหนัก ทิ้งตัวสวย และมีเงางาม นอกจากนี้ ผ้าไหมทอลาย (Brocade) ก็เป็นที่นิยมเช่นกันเนื่องจากมีลวดลายในตัวที่สวยงามและเพิ่มความหรูหรา ผ้าต่วน (Satin) และผ้ากำมะหยี่ (Velvet) ก็สามารถนำมาใช้ได้ โดยผ้าต่วนจะให้ความเงางามและราคาเข้าถึงง่ายกว่า ในขณะที่ผ้ากำมะหยี่ให้ความรู้สึกหรูหราและอบอุ่น หากเป็นกี่เพ้าลำลอง อาจเลือกใช้ผ้าฝ้าย (Cotton) ที่สวมใส่สบายและดูแลรักษาง่าย
  • ผ้าซับใน (Lining Fabric): ควรเลือกผ้าซับในที่มีน้ำหนักเบา นุ่ม ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าไหม ผ้าคอตตอน หรือผ้าซับในสังเคราะห์ เพื่อความสบายในการสวมใส่และช่วยให้ชุดอยู่ทรง
  • ผ้ารองปก/สาบ (Interfacing): ใช้สำหรับเสริมความแข็งแรงให้กับปกคอและสาบเสื้อ เพื่อให้ปกตั้งอยู่ทรงและสาบเสื้อดูเรียบร้อย
  • กระดุมจีน (Frog Buttons/Trimmings): เป็นองค์ประกอบสำคัญที่เพิ่มความโดดเด่นให้กับชุด สามารถทำจากผ้าชนิดเดียวกับตัวชุด หรือใช้กระดุมจีนสำเร็จรูปที่ทำจากไหมหรือลูกปัด
  • ซิป (Zipper): โดยส่วนใหญ่จะใช้ซิปซ่อน (Invisible Zipper) ที่ด้านข้างหรือด้านหลังของชุด เพื่อให้การสวมใส่สะดวกและยังคงความเรียบเนียนของชุด
  • อุปกรณ์เย็บผ้าทั่วไป: จักรเย็บผ้า, เข็มเย็บผ้า, ด้าย (ควรเลือกสีที่เข้ากับผ้า), กรรไกรตัดผ้า, สายวัด, ชอล์กเขียนผ้า, เข็มหมุด, ที่เลาะผ้า, เตารีด และแผ่นรองรีด

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ตารางด้านล่างแสดงคุณสมบัติของผ้าที่นิยมใช้ทำชุดกี่เพ้า:

ประเภทผ้า คุณสมบัติเด่น เหมาะสำหรับ
ผ้าไหม (Silk) นุ่ม เงางาม ทิ้งตัวดี ระบายอากาศเยี่ยม กี่เพ้าระดับสูง, พิธีการ, หรูหรา
ผ้าไหมทอลาย (Brocade) มีลวดลายในตัว หนา มีโครงสร้างดี กี่เพ้าทรงคลาสสิก, เพิ่มความโดดเด่น
ผ้าต่วน (Satin) ผิวเรียบ ลื่น เงางาม คล้ายไหมแต่ราคาเข้าถึงง่าย กี่เพ้าทั่วไป, งานพรอม, ปาร์ตี้
ผ้ากำมะหยี่ (Velvet) นุ่ม หรูหรา ให้ความอบอุ่น มีมิติ กี่เพ้าฤดูหนาว, งานราตรี, เพิ่มความสง่างาม
ผ้าฝ้าย (Cotton) สวมใส่สบาย ระบายอากาศดี ดูแลรักษาง่าย กี่เพ้าลำลอง, ใส่ในชีวิตประจำวัน

3. การสร้างแพทเทิร์นและการวัดตัว

ชุดกี่เพ้าที่ดีต้องเข้ารูปอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นการวัดตัวและการสร้างแพทเทิร์นที่แม่นยำจึงเป็นหัวใจสำคัญ

  • การวัดตัว (Body Measurement): ควรวัดอย่างละเอียดในจุดสำคัญต่าง ๆ ดังนี้:

    • รอบอก (Bust): วัดรอบอกส่วนที่กว้างที่สุด
    • รอบเอว (Waist): วัดรอบเอวส่วนที่เล็กที่สุด
    • รอบสะโพก (Hip): วัดรอบสะโพกส่วนที่กว้างที่สุด
    • ความกว้างไหล่ (Shoulder Width): วัดจากปลายไหล่หนึ่งไปยังอีกปลายไหล่หนึ่ง
    • ความยาวหลัง (Back Length): วัดจากปุ่มกระดูกต้นคอถึงเอว
    • ความยาวชุด (Dress Length): วัดจากฐานคอ (หรือกลางไหล่) ถึงความยาวที่ต้องการ
    • ความสูงของรอยผ่า (Slit Height): กำหนดว่าต้องการให้รอยผ่าข้างสูงเท่าใด
    • รอบคอ (Neck Circumference): สำหรับปกคอตั้ง
  • การสร้างแพทเทิร์น (Pattern Creation):

    • สามารถทำได้หลายวิธี:
      • การดราฟท์แพทเทิร์นจากศูนย์ (Drafting from scratch): ต้องมีความรู้ด้านแพทเทิร์นโดยเฉพาะ เพื่อสร้างแพทเทิร์นที่พอดีกับสัดส่วนของผู้สวมใส่
      • การดัดแปลงแพทเทิร์นสำเร็จรูป: ซื้อแพทเทิร์นกี่เพ้าสำเร็จรูปแล้วนำมาปรับแก้ให้เข้ากับสัดส่วน
      • การลอกแบบจากชุดเดิม (Duplicating from an existing garment): หากมีชุดกี่เพ้าที่พอดีตัว สามารถเลาะชุดออกเพื่อใช้เป็นแพทเทิร์นได้
    • แพทเทิร์นหลักของชุดกี่เพ้าประกอบด้วย ชิ้นหน้า ชิ้นหลัง แขนเสื้อ (ถ้ามี) ปกคอ และสาบเสื้อ ควรเผื่อเย็บ (Seam Allowance) ประมาณ 1-1.5 ซม. และเผื่อชายเสื้อ (Hem Allowance) ประมาณ 3-5 ซม.

ตารางด้านล่างสรุปจุดวัดตัวที่สำคัญและเหตุผล:

จุดวัด รายละเอียด เหตุผลความสำคัญ
รอบอก วัดรอบอกส่วนที่กว้างที่สุด กำหนดความกว้างของชุดช่วงบน, การเข้ารูปของอก
รอบเอว วัดรอบเอวส่วนที่เล็กที่สุด เน้นสรีระ สร้างความโค้งเว้า, ความสบายในการสวมใส่
รอบสะโพก วัดรอบสะโพกส่วนที่กว้างที่สุด กำหนดความกว้างของชุดช่วงล่าง, ช่วยให้เดินสะดวก
ความกว้างไหล่ วัดจากปลายไหล่หนึ่งไปยังอีกปลายไหล่หนึ่ง กำหนดความกว้างของไหล่ชุด, ความสบายของแขนเสื้อ
ความยาวชุด วัดจากฐานคอถึงความยาวที่ต้องการ กำหนดความยาวโดยรวม, มีผลต่อความสง่างาม
ความสูงของรอยผ่า วัดจากชายกระโปรงขึ้นมาตามความต้องการ ความสะดวกในการเคลื่อนไหว, สไตล์และความเซ็กซี่

4. ขั้นตอนการตัดผ้า

การตัดผ้าที่ถูกต้องและแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนผ้าที่สมบูรณ์พร้อมสำหรับการเย็บ

  • การเตรียมผ้า: หากเป็นผ้าที่หดตัวง่าย (เช่น ผ้าไหมบางชนิด) ควรอัดผ้าหรือซักล่วงหน้าก่อนตัด เพื่อป้องกันการหดตัวหลังเย็บเสร็จ จากนั้นรีดผ้าให้เรียบปราศจากรอยยับ
  • การวางแพทเทิร์น: วางแพทเทิร์นลงบนผ้าโดยคำนึงถึงแนวผ้า (Grainline) ทิศทางของลายผ้า และความสมมาตรสำหรับชิ้นส่วนที่ต้องพับครึ่ง พยายามวางแพทเทิร์นให้ประหยัดผ้ามากที่สุด
  • การปักหมุดและตัด: ใช้เข็มหมุดยึดแพทเทิร์นกับผ้าให้แน่น จากนั้นใช้กรรไกรตัดผ้าที่คมกริบตัดตามขอบแพทเทิร์นอย่างระมัดระวังและแม่นยำ อย่าลืมเผื่อเย็บและเผื่อชายตามที่กำหนดไว้ในแพทเทิร์น
  • การทำเครื่องหมาย: ใช้ชอล์กเขียนผ้าหรือปากกาลบได้ทำเครื่องหมายจุดสำคัญต่าง ๆ เช่น ตำแหน่งเกล็ด (Darts), ตำแหน่งกระดุม, ตำแหน่งรอยบาก (Notches) ที่ใช้ในการต่อผ้าให้ตรงกัน

5. การเย็บตัวชุดกี่เพ้า

เมื่อตัดผ้าเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มต้นการประกอบชุด

  • เย็บเกล็ด (Darts): เริ่มต้นด้วยการเย็บเกล็ดที่ตัวชุดทั้งชิ้นหน้าและชิ้นหลัง (ถ้ามี) การเย็บเกล็ดช่วยให้ชุดเข้ารูปและเน้นสรีระ หลังจากเย็บเสร็จให้รีดเกล็ดให้เรียบ โดยเกล็ดแนวตั้งส่วนใหญ่จะรีดเข้าหากัน เกล็ดแนวนอนจะรีดลง
  • เย็บตะเข็บข้างและไหล่ (Side and Shoulder Seams): นำชิ้นหน้าและชิ้นหลังมาประกบกันด้านถูกเข้าหากัน เย็บตะเข็บไหล่และตะเข็บข้างให้เรียบร้อย เย็บซิปซ่อนเข้าที่ตำแหน่งที่กำหนดไว้ (โดยทั่วไปคือด้านข้างลำตัว)
  • เย็บซับใน (Lining): เย็บผ้าซับในตามขั้นตอนเดียวกันกับผ้าตัวชุด เมื่อเย็บซับในเสร็จแล้ว นำซับในมาเย็บเข้ากับตัวชุด โดยมักจะเย็บที่ขอบคอ ชายแขนเสื้อ และแนวซิป
  • การเย็บสาบเสื้อ (Placket): สำหรับชุดกี่เพ้าที่มีสาบเสื้อด้านหน้า ให้เย็บสาบเสื้อเข้ากับชิ้นหน้าชุด โดยมีการเสริมผ้ารองปกเพื่อความอยู่ทรง

6. การเย็บคอปกและการทำรังดุมกบ

ปกคอตั้งและกระดุมจีนเป็นเอกลักษณ์สำคัญของชุดกี่เพ้าที่ต้องอาศัยความประณีต

  • การเย็บปกคอ (Collar):
    • ตัดชิ้นปกคอสองชิ้นและชิ้นผ้ารองปกหนึ่งชิ้น
    • รีดผ้ารองปกติดกับผ้าปกคอหนึ่งชิ้น
    • นำผ้าปกคอสองชิ้นมาประกบกันด้านถูกเข้าหากัน เย็บขอบด้านบนและด้านข้าง
    • ตัดส่วนโค้งของตะเข็บออก แล้วกลับด้านถูกออกมารีดให้เรียบ
    • นำปกคอที่เตรียมไว้มาเย็บติดกับตัวชุดที่คอเสื้อ โดยซ่อนตะเข็บไว้ด้านใน
  • การทำรังดุมกบ (Frog Buttons):
    • รังดุมกบสามารถทำได้จากผ้าตัวชุดโดยการตัดผ้าเฉลียง (Bias Strip) แล้วเย็บกลับด้านให้เป็นเส้นกลมเล็ก ๆ จากนั้นนำมาขึ้นรูปเป็นลายต่าง ๆ เช่น ลายมังกร ดอกไม้ หรือแบบเรียบง่าย
    • อีกวิธีหนึ่งคือการซื้อรังดุมกบสำเร็จรูปที่มีจำหน่ายทั่วไป
    • นำรังดุมกบมาเย็บติดกับสาบเสื้ออย่างประณีต โดยจัดตำแหน่งให้สวยงามและใช้งานได้จริง แหล่งข้อมูลอย่าง "Cheongsamology.com" มีข้อมูลและรูปภาพมากมายเกี่ยวกับการออกแบบและตำแหน่งของรังดุมกบแบบดั้งเดิม

7. การทำแขนเสื้อและชายกระโปรง

  • การเย็บแขนเสื้อ (Sleeves):
    • หากชุดกี่เพ้ามีแขนเสื้อ (บางแบบเป็นแขนกุดหรือแขนสั้น) ให้เย็บตะเข็บแขนเสื้อแล้วรีด
    • จากนั้นนำแขนเสื้อมาเย็บติดกับตัวเสื้อที่วงแขน โดยอาจเย็บแบบเรียบหรือมีการจับจีบเล็กน้อยก็ได้
    • พับชายแขนเสื้อขึ้นและเย็บเก็บ
  • การผ่าข้าง (Slits):
    • ชุดกี่เพ้าส่วนใหญ่มักมีการผ่าข้างกระโปรงเพื่อความสะดวกในการเดินและเพื่อความสวยงาม
    • เย็บเก็บชายผ้าบริเวณรอยผ่าให้เรียบร้อย อาจใช้วิธีกุ๊น (Piping) หรือพับเย็บแบบธรรมดา
  • การทำชายกระโปรง (Hemming):
    • พับชายกระโปรงขึ้นตามความยาวที่ต้องการ ใช้เข็มหมุดยึดให้แน่น
    • เย็บเก็บชายกระโปรง อาจใช้การเย็บแบบสอยซ่อนด้าย (Blind Hem) เพื่อให้มองไม่เห็นรอยเย็บจากด้านนอก

8. การเก็บรายละเอียดและการตกแต่ง

ขั้นตอนสุดท้ายคือการเก็บรายละเอียดทั้งหมดเพื่อให้ชุดสมบูรณ์แบบและสวยงามที่สุด

  • การกุ๊น (Piping): การกุ๊นเป็นเทคนิคการตกแต่งที่นิยมใช้ในชุดกี่เพ้า โดยการนำผ้าเฉลียงมาเย็บหุ้มเชือกหรือด้าย แล้วนำไปเย็บติดกับขอบของปกคอ สาบเสื้อ ชายแขนเสื้อ และรอยผ่าข้าง การกุ๊นจะช่วยเน้นรูปทรงและเพิ่มความประณีตให้กับชุด
  • งานปัก (Embroidery): หากต้องการเพิ่มความหรูหราและคุณค่าให้กับชุด อาจพิจารณาการปักลวดลายลงบนผ้า เช่น ลายดอกไม้ ลายนก หรือลายมังกร การปักสามารถทำได้ด้วยมือหรือด้วยเครื่องจักร
  • การรีดขั้นสุดท้าย (Final Pressing): หลังจากเย็บและตกแต่งทั้งหมดเสร็จแล้ว ให้รีดชุดกี่เพ้าอย่างระมัดระวังอีกครั้งเพื่อให้ชุดเรียบเนียน อยู่ทรง และดูเป็นมืออาชีพ
  • การตรวจสอบคุณภาพ (Quality Check): ตรวจสอบตะเข็บทั้งหมดว่าแน่นหนาเรียบร้อยหรือไม่ มีด้ายหลุดลุ่ยหรือไม่ และรายละเอียดต่าง ๆ ถูกต้องตามที่ออกแบบไว้หรือไม่

การสร้างชุดกี่เพ้าแบบดั้งเดิมเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรู้ ความชำนาญ และความทุ่มเทอย่างแท้จริง ตั้งแต่การเลือกผ้าที่เหมาะสม การวัดตัวที่แม่นยำ การสร้างแพทเทิร์น การตัดเย็บอย่างประณีต ไปจนถึงการเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกขั้นตอนล้วนมีความสำคัญและส่งผลต่อผลลัพธ์สุดท้าย กี่เพ้าแต่ละชุดที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจึงมิใช่เพียงแค่เสื้อผ้า แต่เป็นงานฝีมือที่เปี่ยมด้วยเรื่องราว วัฒนธรรม และจิตวิญญาณของผู้สร้าง ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสง่างามเหนือกาลเวลาของสตรีและศิลปะการแต่งกายของจีน กี่เพ้ายังคงเป็นเครื่องแต่งกายที่น่าหลงใหลและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนทั่วโลกในการชื่นชมในความงามอันเป็นเอกลักษณ์และคุณค่าของงานฝีมือที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน.

What you can read next

ชุบชีวิตศิลป์กี่เพ้า: คืนเทคนิคตัดเย็บดั้งเดิมที่เลือนหาย
กี่เพ้ายุคใหม่: สวยครบจบในชุดเดียว จากออฟฟิศถึงราตรี
Hang a Kimono on a Wall
วิธีแขวนกิโมโนประดับผนังให้สวยงามและคงทน

Support

  • My Account
  • Contact Us
  • Privacy Policy
  • Refund & Return Policy
  • Shipping Policy

Knowledge

  • Cheongsam Buying Guide
  • Evolution of Cheongsamology
  • Structure of Cheongsam
  • Cheongsam on the Silver Screen
  • Cheongsam vs. Hanfu

Get in Touch

Email: [email protected]

SMS: +1 (413)4387891

  • GET SOCIAL

© 2025 Cheongsamology. All Rights Reserved.

TOP